logo

สารจากคณะกรรมการ

“ตลอดทั้งปี 2566 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทหน้าที่ภายใต้กฎบัตรและกรอบความยั่งยืน เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล และให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายจัดการในทุกๆ ด้าน พร้อมไปกับการควบคุมภายใน การบริหารความเสี่ยง การพัฒนาองค์กร และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินกิจการด้วยความถูกต้อง โปร่งใส ยุติธรรม”

ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์
ประธานกรรมการ

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

ความอ่อนไหวและไม่แน่นอนทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและความขัดแย้งระหว่างประเทศในปี 2566 นอกจากจะเป็นผลต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีก่อนๆ แล้ว ยังเกิดกรณีปัญหาความไม่มั่นคงของสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และการต่อสู้ระหว่างอิสราเอล-ฮามาส รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างรุนแรงยืดเยื้อในประเทศจีน ที่ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจทั่วโลกและต่อผู้ประกอบการไทย

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความท้าทายจากผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รุนแรง และต่อเนื่อง จึงให้ความสำคัญกับการเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารให้รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ภายใต้การตัดสินใจที่รัดกุม รอบคอบ และมีวินัยทางการเงิน มีการทบทวนและจัดลำดับการลงทุนอย่างเหมาะสม เร่งการขยายธุรกิจหลักที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ ร่วมมือกับพันธมิตรในการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ พร้อมทั้งพัฒนาวางรากฐานเทคโนโลยีดิจิทัล การปรับปรุงโครงสร้างบุคลากร เพื่อตอบสนองทิศทางกลยุทธ์ในอนาคตด้วยความเชื่อมั่นที่จะเอื้อให้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนต่อเนื่อง

ตลอดทั้งปี 2566 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทหน้าที่ภายใต้กฎบัตรและกรอบความยั่งยืน เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล และให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายจัดการในทุกๆ ด้าน พร้อมไปกับการควบคุมภายใน การบริหารความเสี่ยง การพัฒนาองค์กร และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินกิจการด้วยความถูกต้อง โปร่งใส ยุติธรรม บุคลากรในองค์กรเกิดจิตสำนึกในการปฏิบัติงานที่ดี เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง ส่งเสริมไปยังบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ จนเป็นที่ประจักษ์ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ติดต่อกันเป็นปีที่ 10 ได้รับรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จด้านความยั่งยืน “Sustainability Awards of Honor” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และได้รับการประเมินโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance Report of Thai Listed Company: CGR) ในระดับดีเลิศ (Excellent CG Scoring) เป็นปีที่ 15 ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตรรางวัลดีเด่น “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และการได้รับรางวัล “องค์กรโปร่งใส” จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ในนามของคณะกรรมการบริษัทฯ ผมขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ขอขอบคุณ ผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานที่ทุ่มเท มุ่งมั่นในการรักษาความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ตลอดมา

“ความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้งฝ่ายบริหารและ พนักงานทุกภาคส่วน ในการดำเนินงานร่วมกันโดยมีเป้าหมายและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อสร้างสิ่งที่ดี ทั้งในวันนี้และอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป”

นายกฤษณ์ อิ่มแสง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดำรงตำแหน่งวันที่ 1 ตุลาคม 2565

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

ปี 2566 บริษัทฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น เศรษฐกิจหลายประเทศยังคงมีภาวะถดถอย แม้การเปิดเศรษฐกิจของจีนที่จะเป็นความหวัง แต่กลับเป็นการส่งออกสินค้ามายังภูมิภาคจำนวนมาก อันเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศจีนเองชะลอตัว ซึ่งส่งผลลบต่อภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะสินค้ายานยนต์และอุตสาหกรรมพลาสติก นอกจากนี้ ผลกระทบจากเอลนีโญที่ทำให้โลกร้อนเป็นประวัติการณ์ สร้างความกังวลและความเข้มงวดในการเร่งมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการลดภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ภาคการผลิตและภาคธุรกิจต้องทบทวน ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านี้

บริษัทฯ ได้ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเพิ่มมาตรการรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา เพื่อบรรเทาผลกระทบที่มีต่อธุรกิจ โดยวางกลยุทธ์การดำเนินงานมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ เสริมขีดความสามารถในการผลิตและการแข่งขัน สร้างความเข้มแข็งในธุรกิจหลัก (Core uplift) ได้แก่ ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ขณะเดียวกัน มีการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ (Step up & Beyond) รับเมกะเทรนด์ รองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และกลยุทธ์การเติบโต New S - Curve ของประเทศ เพื่อสร้างผลลัพธ์ตามวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุ และพลังงานเพื่อชีวิตที่ลงตัว”

เพิ่มประสิทธิภาพสร้างความเข้มแข็งในธุรกิจหลัก (Core uplift)

บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาผลิตและเริ่มจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสะอาดมาตรฐานน้ำมันยูโร 5 ได้สำเร็จ รวมทั้งได้ร่วมกับบริษัท กรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ จำกัด หรือ BFPL ขยายระบบโลจิสติกส์ขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังคลังน้ำมันแห่งใหม่ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรลุเป้าหมายสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Product) อยู่ในสัดส่วนร้อยละ 33 ภายใต้แบรนด์ “POLIMAXX”

พัฒนาต่อยอดจากธุรกิจเดิมและแสวงหาธุรกิจใหม่ (Step up & Beyond)

บริษัทฯ ร่วมมือกับพันธมิตรหลายภาคส่วน ในการขยายต่อยอดธุรกิจไปยังตลาดหรือผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ อาทิ ความร่วมมือกับเครือโรงพยาบาลบางปะกอกและโรงพยาบาลปิยะเวท ศึกษาการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลและที่พักเพื่อสุขภาพ (Health & Wellness) ในพื้นที่มีศักยภาพของบริษัทฯ ที่จังหวัดระยอง และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมกับบริษัท เบเยอร์ จำกัด พัฒนาผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบมาตรฐานโลกเป็นครั้งแรกของประเทศสำหรับใช้เคลือบโครงสร้างเหล็กในโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี สนามบิน ท่าเรือ และสะพาน เป็นต้น

มุ่งสู่เป้าหมายเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัทฯ มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2603 ตามแนวทาง ESG (Environment, Social, Governance: ESG ) ได้ร่วมภาคีเครือข่ายในการจัดทำโครงการต่างๆ อาทิ ความร่วมมือกลุ่ม ปตท. ภาครัฐ และภาคีเครือข่ายปลูกป่าเพิ่ม 2 ล้านไร่ทั่วประเทศ ความร่วมมือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด นำวัสดุเหลือใช้ในกระบวนการผลิต พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ความร่วมมือกับมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และโรงงานทำขาเทียม 95 แห่งทั่วประเทศ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลทหารผ่านศึก และบริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด ดำเนินโครงการ “From Wastes to Walk” นำพลาสติกเหลือใช้จากการผลิตกายอุปกรณ์กลับมารีไซเคิลนำไปผลิตเป็นอุปกรณ์เสริมระดับข้อเท้าและเท้ามอบให้คนพิการ หรือผู้ป่วยที่มีโครงสร้างของเท้าผิดปกติ เท้าผิดรูป ผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ผลจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ในปี 2566 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในหลายด้านโดยมีรางวัลเป็นเครื่องยืนยัน อาทิ รางวัล Asian Excellence Award 2023 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลซีอีโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Asia’s Best CEO) รางวัลซีเอฟโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Asia’s Best CFO) รางวัลบริษัทนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม (Best Investor Relations Company) และรางวัลความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม (Best Environmental Responsibility) นอกจากนั้นศูนย์เรียนรู้ และการท่องเที่ยวเชิงเกษตรผสมผสานสวนยายดา “เจ๊บุญชื่น” IRPC Smart Farming ยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) รางวัลดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ (Learning & Doing) และประเภทแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainability)

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้งฝ่ายบริหารและพนักงานทุกภาคส่วนในการดำเนินงานร่วมกันโดยมีเป้าหมายและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อสร้างสิ่งที่ดีทั้งในวันนี้และอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป